ข้อมูลการเล่น Incar Magician

เจาะลึก Incar Magician อลังการมหาเวทย์ทำลายล้าง

Incar Magician คืออาชีพที่โดดเด่นในการใช้สกิลเวทย์โจมตี เช่น ไฟ น้ำ สายฟ้า ภาพรวมของอาชีพนี้ไม่ได้มีไว้สนับสนุนใคร เพราะมันคืออาชีพที่สามารถสร้างความเสียหายได้รุนแรงและต่อเนื่องมากๆ หน้าที่หลักของ Incar Magician คือการโจมตีและล้มเป้าหมายตรงหน้าลงให้ได้ จุดเด่นของอาชีพนี้มีหลายอย่าง โดยเฉพาะการสร้างความเสียหายแบบ AoE ที่เรียกได้ว่าอาชีพอื่นทาบไม่ติด แต่ถึงมันจะเก่งในเรื่องโจมตีและสร้างความเสียหาย จุดด้อยของอาชีพนี้ก็คือพลังป้องกันที่ถือว่าน้อยมาก ซึ่งทำให้การเล่นอาชีพนี้ยากขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นหัวใจหลักของการเล่น Incar Magician ก็คือการล้มศัตรูลงให้ได้ก่อนที่จะถึงตัว แนวทางการเล่น Incar Magician มีดังนี้

หลักการอัพค่าสเตตัส
หลักในการอัพค่าสเตตัสของ Incar Magician จะไปอยู่ที่ค่า Spr และ Heal ส่วนค่า Str จะอัพก็เพื่อให้สามารถสวมใส่ไอเทมที่ต้องการอย่างพวกอาวุธให้ได้ก็พอ ลักษณะการอัพค่าสเตตัสแบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้

สายมาตราฐาน
แต่ละเลเวลจะเลือกอัพแบบ Spr 3 และ Heal 2 การอัพสายนี้ถือเป็นการเล่นที่สมดุลที่สุด เพราะจะได้พลังโจมตีเวทย์ที่รุนแรงขึ้น ทำให้เก็บเลเวลง่าย และยังได้ค่า Heal มาช่วยทำให้ค่า HP และพลังป้องกันเพิ่มด้วย อย่างน้อยช่วงแรกๆ ก็ทำให้เล่นง่ายมากทีเดียว

สายเน้น Spr
เป็นการเลือกอัพ Spr 4 และ Heal 1 การอัพรูปแบบนี้ดูจะไม่เหมาะในช่วงแรกๆ เท่าไหร่นัก เพราะถึงแม้จะโจมตีรุนแรง แต่ถ้าพลาดขึ้นมาด้วยพลังป้องกันและค่า HP ที่น้อยคงมีโอกาสลงไปนอนได้ง่ายๆ การอัพแบบนี้จะเหมาะในช่วงเลเวลสูงๆ หลังจากมีค่า HP มากพอทำให้เล่นได้สบายๆ แล้วจะดีกว่า

สายกลาง
เป็นการอัพค่าสเตตัสโดยเลือก Spr 3 และ Heal 2 จากนั้นก็อัพสลับกันเป็น Spr2 และ Heal 3 เป็นการอัพแบบไม่เน้นไปในด้านใดมากจนเกินไป ในบรรดาทั้ง 3 สายแล้ว สายนี้จะมีความอึดมากที่สุด แต่ต้องแลกกับพลังโจมตีเวทย์ที่น้อยที่สุดเช่นกัน ในช่วงแรกๆ สามารถเล่นได้ง่ายและช่วงหลังอาจต้องเปลี่ยนสไตล์การอัพไปเลือกเน้นค่า Spr ขึ้นมาทดแทน

ในช่วงเริ่มต้นแนะนำให้อัพค่า Heal ขึ้นมาพร้อมๆ กับ Spr ตามสายมาตราฐานดีกว่า หลังจากนั้นเมื่อมีเลเวลสูงขึ้นหรือหาไอเทมดีๆ มารองรับความเสียหายของตัวเองได้ ค่อยเปลี่ยนสายไปเน้นค่า Spr ก็ยังไม่สาย

รูปแบบการเล่น
สำหรับอาชีพนี้สิ่งที่จะเป็นตัวบอกรูปแบบการเล่นก็คือเรื่องของสกิลที่เลือกอัพ เพราะตัวมันเองสามารถเลือกอัพสกิลธาตุออกมาใช้งานได้ทั้ง 3 แบบ คือ
ธาตุไฟ เด่นในเรื่องการสร้างความเสียหายที่รุนแรงทั้งการโจมตีเป็นกลุ่มและเดี่ยว
ธาตุน้ำแข็ง เด่นในเรื่องการโจมตีกลุ่มและลดความสามารถของศัตรูลง แต่ความเสียหายไม่มากนัก
ธาตุสายฟ้า ความรุนแรงไม่สูงเท่ากับธาตุไฟ แต่สกิลแรกๆ มี Cooldown เร็ว การร่ายก่อนใช้งานที่เร็ว

เห็นแบบนี้บางคนอาจจะสงสัยว่ามีถึง 3 รูปแบบการเล่น แล้วจะเลือกอัพสกิลไหนดี บางคนอาจจะตัดสินใจเลือกอัพเฉพาะสายออกมาใช้งานเลยก็ไม่ถือว่าผิด แต่สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงในการเล่น Incar Magician ก็คือธาตุของมอนสเตอร์หรือเป้าหมายที่เราจะโจมตี อย่างเช่นถ้าไปเจอกับมอนสเตอร์ที่ต้านทานไฟสูงๆ ต่อให้ยิงแรงยังไงความเสียหายโดยรวมอาจจะเบากว่าการใข้สกิลธาตุน้ำแข็งโจมตีด้วยซ้ำไป ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือควรจะมีธาตุเสริมขึ้นมาสำรองเอาไว้ด้วย หลักในการเลือกมีดังนี้

ธาตุไฟ และ ธาตุน้ำแข็ง
เป็นการเลือกอัพที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นมาก เพราะธาตุไฟสามารถโจมตีเป้าหมายได้รุนแรง และยังมีธาตุน้ำแข็งมาทำหน้าที่สนับสนุน เหมาะทั้งการเก็บเลเวลและการ PVP

ธาตุสายฟ้า และ ธาตุน้ำแข็ง
ถึงแม้ว่าธาตุสายฟ้าจะไม่รุนแรงเท่ากับไฟ แต่ด้วยการโจมตีที่ต่อเนื่องและการร่ายที่เร็วกว่า ทำให้สายฟ้าถูกมองว่าเหมาะกับการใช้ PVP มาก แต่ในทางกลับกันก็เก็บเลเวลยากกว่าธาตุไฟ ทำให้การเลือกน้ำแข็งมาสนับสนุนจึงช่วยให้การเล่นง่ายขึ้น

ธาตุไฟ และ ธาตุสายฟ้า
การเล่นแบบเน้นโจมตีเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าในการเก็บเลเวลนั้นสายนี้จะทำได้ดีและเร็วกว่าสายอื่น แต่ก็ต้องแลกกับการไม่มีสกิลสนับสนุนหรือป้องกันเลย ดังนั้นต้องอาศัยการรักษาระยะโจมตีที่ดีเข้าช่วยด้วย

รวมทั้ง 3 ธาตุ
เป็นการเลือกอัพโดยอัพสกิลทั้ง 3 ธาตุออกมาใช้งาน การอัพรูปแบบนี้จะไม่เหมาะในช่วงแรกๆ เท่าไหร่นัก เพราะเราต้องนำแต้มสกิลไปอัพสกิลในกลุ่ม Passive ออกมาเพื่อใช้งานเหมือนกัน การอัพแบบนี้จะเหมาะกับช่วงท้ายที่เลเวลเริ่มสูง ประมาณ 60-70 และอัพข้ามสกิลแรกๆ ไปเอาสกิลช่วงหลังของแต่ละธาตุออกมาใช้งานเต็มที่

หมายเหตุ : ก่อนจะเลือกอัพสกิลแบบไหนออกมาก็ควรตัดสินใจควบคู่ไปกับการอัพสเตตัสด้วย ยกตัวอย่างเช่นถึงแม้จะเลือกอัพธาตุสายฟ้าออกมาใช้แต่เน้นอัพค่า Spr เป็นหลัก ก็ทำให้ได้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาสูงไม่แพ้ธาตุไฟที่อัพสายมาตราฐานเหมือนกันและอย่าลืมมองไปถึงผลในระยะยาวด้วย

แนวทางการเล่น
ช่วงแรกการเน้นอัพสกิลธาตุไฟออกมาใช้งานก่อนดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยในเลเวล 7 ก็สามารถเลือกอัพสกิลโจมตีอันแรกของแต่ละธาตุได้แล้ว (เล่นสายไหนก็อย่าลืมอัพสกิลพื้นธาตุเพิ่มโจมตีของธาตุนั้นด้วย) รูปแบบการเก็บเลเวลช่วงแรกการลุยเดี่ยวดูจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะสกิลโจมตีแรงอยู่แล้ว สำหรับสกิลในกลุ่ม Passive ที่ไม่ควรพลาดก็คือ Energy Mastery เพิ่มพลังป้องกัน จากนั้นก็เลเวล 17 สกิล Seize Nimbis ที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันและต้านทานธาตุต่างๆ และท้ายสุดก็สกิล Mana Force เริ่งการฟื้นฟู HP จากนั้นก็เลือกอัพสกิลโจมตีออกมาใช้งาน โดยช่วงเลเวล 16 ก็สามารถเลือกอัพสกิลโจมตีระดับสูงขึ้นของแต่ละธาตุออกมาได้แล้ว ซึ่งทั้ง Fire Ball และ Chain Lightning ก็เป็นสกิลโจมตีกลุ่มด้วย ถึงจะใช้งานยากไปนิดแต่ช่วยเร่งการเก็บเลเวลได้ดีมากทีเดียว

ช่วงเลเวลประมาณ 27-30 คือช่วงที่การเล่น Incar Magician จะง่ายและลื่นไหลกว่าช่วงแรกมาก เพราะเราจะได้สกิล Magic Power มาเพิ่มพลังโจมตีเวทย์และได้สกิลเด็ดๆ อย่าง Ice Wave และ Ice Spike มาใช้ลดความเร็วเคลื่อนที่และแช่แข็งศัตรูแล้ว และยังอัพสกิลโจมตีของแต่ละธาตุในเลเวล 27 มาได้ด้วย เป็นช่วงที่คุณพอจะเริ่มท้า PvP กับผู้เล่นอื่นได้บ้างแล้วละครับ

หลังจากเลเวล 40 ขึ้นไปเรียกได้ว่า Incar Magician ของคุณก็คงมีสกิลที่ต้องการต่างๆ ครบแล้ว และสามารถเก็บเลเวลได้แบบไม่มีปัญหา เพราะช่วงเลเวล 36 ก็สามารถอัพสกิลโจมตีของแต่ละธาตุลำดับต่อไป ซึ่งมีผลเป็นกลุ่มมาใช้งานได้แล้วด้วย ในช่วง 40 ขึ้นไปผมแนะนำให้เริ่มเก็บเลเวลแบบปาร์ตี้ โดยหาพวกทึกๆ สักคนมาเดินลากมอนสเตอร์ให้เราอัดสกิลกลุ่มฆ่าหมู่ หรือจะลากเองฆ่าเองก็ไม่ยาก แต่อย่าลืมว่าลากได้เต็มที่แค่ 3 ตัวเท่านั้น และอย่าลืมด้วยว่า Incar Magician พลังป้องกันน้อย และสกิลธาตุไฟหรือน้ำแข็งมักจะร่ายนาน (บางสกิลประมาณ 3-4 วินาที) อาจจะตายก่อนร่ายเสร็จก็เป็นได้

Tip : คำแนะนำในการลากมอนสเตอร์ก็คือ เวลาที่เราจะอัดสกิลหลังจากลาก ให้พยายามวิ่งเข้ามามอนสเตอร์ตัวอื่นที่อยู่ใกล้ๆ ถึงแม้เราจะลากเต็ม 3 ตัวแล้ว แต่ด้วยสกิลกลุ่มส่วนใหญ่ที่ระยะทำลายกว้างก็อาจจะโดนเป้าหมายพร้อมกันมากกว่า 4-5 ตัวก็เป็นได้ ลองไปฝึกกันดู แล้วอย่าลืมการทิ้งระยะกะให้มอนสเตอร์เข้าถึงตัวตอนร่ายสกิลเสร็จพอดีด้วย

เมื่อเข้าสู่ช่วงเลเวลสูงๆ แล้วสกิลเป้าหมายที่แนะนำให้ Incar Magician ทุกคนเลือกอัพไว้ใช้งานก็คือ Freeze Spirit เพราะเป็นสกิลแช่แข็งกลุ่มระยะกว้างที่ทรงประสิทธิภาพและน่าใช้งานมาก สามารถแช่ศัตรูไว้ได้นานถึง 1.9 วินาทีมากพอจะทำให้คอมโบสกิลกลุ่มได้สบายๆ และสกิลดี (สุดๆ) อีกอันก็คือ Aqua Circle ที่ได้ตอนเลเวล 98 ความเสียหายแรงแล้วยังเป็นการโจมตีแบบกลุ่ม แถมช่วยเพิ่มพลังโจมตีเวทย์ขึ้นแบบก้าวกระโดด 75% ด้วยขั้นชั่วขณะด้วย นัดต่อไปที่จะยิงคงแรงสุดๆ เลยละครับ

ในเรื่องการ PVP Incar Magician ก็คือเป็นดาวเด่นเหมือนกัน เพราะพลังป้องกันของเป้าหมายไม่ได้มีผลต่อการโจมตีเวทย์ โดยต้องหาไอเทมที่เพิ่มต้านทานธาตุมาใช้เท่านั้นจึงจะช่วยให้โดนเบาลง ดังนั้นของไม่เทพจริงๆ โดนคอมโบเวทย์เข้าไปสักชุดคงลงไปดิ้นแล้วละครับ แต่ในทางกลับกันก็ต้องระวังพวกมีสกิลโจมตีหนักๆ จากระยะไกฃ หรือสกิลหยุดเอาไว้ เพราะสกิลส่วนใหญ่ของ Incar นั้นใช้ระยะเวลาร่ายที่ค่อนข้างนาน นั้นอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนที่ลงไปนอนเป็นคุณแทนได้ สกิลสำคัญในการ PVP ก็คือ Spoiled Divinity ที่ทำให้พลังต้านทานธาตุต่างๆ ของเป้าหมายลดลงและโจมตีไปในตัว แน่นอนว่ามันจะช่วยให้คุณยิงพวกไอเทมเทพๆ ทั้งหลายได้แรง และส่งพวกไอเทมบางๆ ลงไปคุกเข่าเร็วขึ้น

แนวทางการเลือกอาวุธ Wand และ Staff
เป็นประเด็นที่หลายคนคงอยากทราบว่าแท้จริงแล้วอาวุธไหนที่เหมาะกับ Incar Magician มากกว่ากัน ผมต้องขอบบอกว่ามันดีกันคนละอย่าง และก็ต้องขึ้นกับการเลือกอัพค่าสเตตัสและสกิลของเราด้วย

Wand (คทา)
เป็นไอเทมที่เน้นค่า Spr เป็นหลักในการสวมใส่ ผู้เล่นส่วนใหญ่นิยมใช้ไอเทมนี้เพราะไม่จำเป็นต้องอัพค่า Str เยอะเท่าไหร่ ทำให้สามารถนำมาอัพ Spr เพิ่มพลังโจมตีเวทย์ได้เต็มที่ พลังโจมตีของ Wand ถือว่าสูงมาก แต่ในทางกลับกันความต่างของพลังโจมตี (ค่าต่ำสุด-สูงสุด) ก็มากตามไปด้วย และ Wand นั้นเจาะรูใส่ออฟชั่นได้เพียง 3 ช่อง

Staff (ไม้เท้า)
อาวุธประเภทนี้ต้องการค่า Str เยอะกว่า Wand มากที่เดียว แน่นอนว่าหากเอาค่าความต่างของ Str ที่เสียไปอัพ Spr แทน จะได้พลังโจมตีเวทย์เพิ่มขึ้นมาเยอะเหมือนกัน พลังโจมตีเวทย์ไม่แกว่งมากแต่ไม่สูงเท่ากับ Wand ช่วงแรกไม่แนะนำให้ใช้ Staff เพราะต้องอัพ Str เกินจำเป็น แต่ในช่วงท้ายก็มีผู้เล่นบางคนเปลี่ยนไปถือ Staff โดยเจาะ 4 รูและใส่ออฟชั่นให้เพิ่มโจมตีธาตุมากขึ้นแทนก็มี

โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ใช้ Wand ครับ เพราะนอกจากไม่ต้องอัพค่า Str เกินจำเป็นแล้วยังได้ค่าพลังโจมตีเวทย์สูงด้วย ถึงแม้การใช้ Staff อาจจะทำให้การโจมตีด้วยธาตุบางธาตุแรงขึ้นจากการเจาะรูและใส่ออฟชั่น และการใช้ Wand จะทำให้การโจมตีด้วยทุกธาตุรุนแรงเหมือนกันทั้งหมด อาจสรุปได้ว่าถ้าต้องการเล่นแบบผสมสายการใช้ Wand ดูจะสมดุลที่สุด และถ้าเน้นไปที่ธาตุใดธาตุหนึ่งแล้วละก็การทำออฟชั่นของ Staff อาจสร้างความเสียหายได้มากกว่า ในส่วนนี้ก็คงขึ้นอยู่กับการเลือกสกิลของเราเองด้วย

ที่มา http://game.online-station.net/dekaron